09 เกวลิน อ่องคล้าย ม.4/1

สวัสดีทุกๆคนค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blog Kewalin_ELF ค่ะ



วันอาทิตย์, ธันวาคม 21, 2551

[My Diary] ไปงานปีใหม่กับตึกแม่

หลังจากผ่านการสอบมาอย่างยากเย็น ในที่สุดก็สอบเสร็จสักที เรื่องคะแนนคงรู้อย่างเป็นทางการในอาทิตย์ต่อไป
และในวันเสาร์(20/12/08)ที่ผ่านมาข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวในงานปีใหม่ทีทางตึกของคุณแม่จัดขึ้น ซึ่งปกติก็ไปกับแม่และน้องทุกๆปีอยู่แล้ว สำหรับปีนี้ก็ได้ไปจัดกันที่แก่งกระจาน
เริ่มแรกของการเดินทางก็ไปไหว้พระกันที่วัดพระนอนแล้วก็มีกิจกรรมเล่นเกมส์ของเหล่าเจ้าหน้าที่ของตึก หลังจากนั้นก็ไปต่อที่ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง
จนสุดท้ายก็ไปถึงที่หมายคือที่เรือนระบินรีสอร์ท ที่นั้นติดริมน้ำ ติดภูเขา แต่ที่พักก็สะดวกสบายใช้ได้เลยทีเดียว พอไปถึงก็ต้องเพิ่มกำลังกันด้วยอาหารกลางวันก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน ช่วงเย็นๆก็เริ่มมีการแข่งขันเล่นเกมส์ต่างๆ ข้าพเจ้าก็เข้าไปช่วยแม่เล่นบ้าง เก็บภาพบ้าง หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเล่นเกมส์เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ไปเตรียวการแสดงของแต่ละกลุ่มซึ่งทางด้านของแม่ข้าพเจ้าก็มีเช่นกัน ข้าพเจ้าก็ไปช่วยคุณแม่แต่งตัว ส่วนช่วงการแสดงก็ทำหน้าที่เป็นตากล้อง ถ่ายทั้งวีดีโอและภาพนิ่งจนการ์ดเต็มเลย แต่ตอนแสดงเป็นช่วงกลางคืนประกอบกับแสงสว่างโดยรอบมีน้อยจึงทำให้ภาพที่ออกมาไม่ชัดนัก
ต่อมาก็มีการแสดงของกลุ่มอื่นๆสลับกับการจักฉลาก เล่นเกมส์ และสิ่งที่น่าลุ้นมากที่สุดคือการเฉลย Buddy ซึ่งมีกติกาว่า หากผู้ใดที่ทาย Buddy ของตัวเองผิดก็จะถูกลงโทษด้วยการเต้นจนกว่าจะถ่ายถูก ซึ่งเรียกความสนุกสนานได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ผ่านไปซักพักข้าพเจ้ารู้สึกหนาวมากๆ ที่นั้นน้ำค้างแรงมากๆเลย จึงขอแม่ไปอาบน้ำก่อน หลังจากนั้นก็ย้ายสัมภาระไปที่พัก อาการช่วงกลางคืนที่นั้นดีมากๆ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาว สวยสุดๆเลย
พอรุ่งเช้าก็ตื่นขึ้นมาพบกับอาการที่เย็นเช่นกับเมื่อกลางคืนแต่ะน้อยกว่าเล็กน้อย ช่วงทานอาหารเช้าพวกผู้ใหญ่ก็ทยอยกันลงมาคุยกันเรื่องๆต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืน สนุกสนานกันมากมาย พอสายๆอาการก็เริ่มร้อนขึ้นด้วยแสงแดดข้าพเจ้าก็เตรียมเก็บของและกลับบ้าน
ถึงจะเป็นงานปีใหม่ของเหล่าผู้ใหญ่แต่ข้าพเจ้าก็รู้สึกสนุกไม่น้อย ถือเป็นการคลายเครียดหลังการสอบได้อีกด้วย ^O^

วันศุกร์, ธันวาคม 19, 2551

[บทความ] 10 ของขวัญต้องห้าม..ในวันปีใหม่..

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ตอนนี้ใกล้ปีใหม่แล้ว ใครขึ้นจะซื้อของขวัญลองมาอ่านคำแนะนำทางนี้ได้นะคะ^^

สวัสดีครับ..ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยข้าน้อย ข้าน้อยนามว่า พี่ลาเต้ กำลังเครียดอย่างแรงว่าจะซื้อของขวัญอะไรไปจับสลากใน งานวันปีใหม่ของพี่ๆทีมงานเด็กดีดอทคอม ดี..คิดไม่ตกจริงๆ..กะว่าจะเอาหอยดอง เมืองแปดริ้ว หรือครกหินอ่างศิลา เมืองชลฯ ก็กลัวจะไม่งาม..เห็นทีต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญซะแล้ว..
และหลังจากได้เข้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากสื่อต่างๆแล้ว ก็ทำให้ ข้าน้อยได้รู้เลยว่า จะซื้ออะไรเป็นของขวัญก็ซื้อเถิด ไม่ต้องคิดมาก แต่ขออย่างเดียวอย่าซื้อ 10 สิ่งนี้เป็นของขวัญเด็ดขาด ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นลางสังหรณ์ไม่ดี ยิ่งเป็นของขวัญปีใหม่ด้วยหละก็..ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับ..ว่าแต่ 10 สิ่งนั้นจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ..แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาญในการรับสื่อนะคร๊าบ..


น้ำหอม
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะมีหลายคนที่เขาเชื่อ เขาแอบกระซิบบอกมาว่า ห้ามให้แฟนซื้อน้ำหอมให้เด็ดขาด เพราะความรักของคุณอาจจะจืดจางเหมือนกับกลิ่นของน้ำหอมที่จางหายไปตามกาลเวลา..
รองเท้า
ข้อนี้ยิ่งเด็ด เพราะมีประสบการณ์ตรงมาอ้างอิง โดยใครมีแฟนรีบเอาไปให้อ่านเลย เขาว่ากันว่าหากแฟนซื้อรองเท้าให้จะทำให้เลิกกัน เพราะรองเท้ามันต้องอยู่เป็นคู่ คนที่เป็นแฟนกันแต่ยังไม่ได้อยู่กันเป็นคู่ รองเท้าจึงเป็นอาถรรพ์ที่อาจจะทำให้เลิกกันได้ เรื่องนี้ขอบอกว่าเคยเกิดขึ้นกับหลายคนนะ ที่แฟนซื้อรองเท้าให้ตอนคบกัน 4 - 5 เดือน หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ แฟนก็ขอเลิกเลย..
เสื้อผ้าชุดดำ
อันนี้น่ากลัวมากๆ เขาห้ามให้เสื้อผ้าชุดที่มีสีดำเป็นของขวัญโดยเด็ดขาด เพราะคนโบราณเขาถือ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าคลุม ผู้หลักผู้ใหญ่จะสอนอยู่เสมอว่า ถ้าเราให้ชุดดำใคร เราจะต้องได้ไปงานศพของคนนั้น..เวรกรรม..
นาฬิกา
อันนี้มาแนวถือเคล็ดซะมากกว่า เพราะหลายคนเชื่อหนักหนาว่า หากแฟนซื้อนาฬิกาให้ จะทำให้ระยะเวลาที่คบกัน อาจจะต้องหยุดลงเมื่อนาฬิกาเรือนนั้นหยุดเดิน ไม่ว่าสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม..โอ้แม่เจ้า..
รูปถ่าย
อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามให้เด็ดขาดนั้นก็คือ รูปถ่ายเดี่ยวๆ ของตัวเอง เพราะมันเปรียบเสมือนการให้รูปที่ระลึกไว้ดูต่างหน้าเวลาจากกัน อาถรรพ์นี้หลายคนเจอมาแล้ว หากใครไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลีกเลี่ยงเด็ดขาด..อะจึ๋ย..
...นอกจากนี้ยังมี ผ้าเช็ดหน้า ของมีคม หวี เข็มกลัด และเครื่องแก้วต่างๆ เพื่อนๆสามารถติตามต่อได้ที่นี่นะคะ>>http://www.dek-d.com/content/view.php?id=12788
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dek-d.com/

วันจันทร์, ธันวาคม 15, 2551

[บทความ] ประโยชน์ดี ๆ จาก "สาหร่ายทะเล"

น้องๆ ชาว Dek-D.Com มีใครชอบทานสาหร่ายทะเลบ้างจ๊ะ ยกมือขึ้นให้พี่ปัดเห็นหน่อยจ๊ะ พี่ปัดเองก็ชอบทานเหมือนกันจ๊ะ โดยเฉพาะสาหร่ายอบแห้งชอบมากเลยเอาไว้ทานเล่นตอนนั่งดูทีวี ฮิฮิ นอกจากนี้สาหร่ายทะเลยังสามารถนำมาใส่อาหารประเภทต้มจืดได้อีกด้วย
สาหร่ายทะเลเป็นอาหารที่มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการอยู่ 18 ชนิด แต่ที่มีมากเป็นพิเศษและสำคัญต่อร่างกายของคนเรามี ดังต่อไปนี้
ไอโอดีน ร่างกายของเราต้องการไอโอดีนประมาณ 0.1-0.3 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันโรคคอพอก
ธาตุเหล็ก จะช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูมีน้ำมีนวล บำรุงเส้นผมให้ดกดำเป็นมันเงางาม
ทองแดง มีหน้าที่ดูดซึมธาตุเหล็กและสร้างฮีโมโกลบินที่ไขกระดูก หากร่างกายขาดธาตุนี้จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางและผมร่วงง่าย
สังกะสี เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ใยอาหาร ช่วยทำให้ท้องไม่ผูก และยังช่วยเร่งการขับถ่ายสารพิษต่างๆ ในทางเดินอาหาร

ทราบถึงคุณประโยชน์ของสาหร่ายทะเลกันไปแล้ว แต่น้องๆ ชาวDek-D.Com ก็ต้องทานกันในปริมาณที่พอเหมาะนะจ๊ะ เพราะในสาหร่ายทะเลมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างที่จะสูง อาจทำให้เป็นโรคไตหรือความดันโลหิตสูงได้
พี่ปัดขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือชีวจิตค่ะ
ภาพประกอบจากwww.nicaonline.comค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Dek-d.com>> http://www.dek-d.com/content/view.php?id=12694

วันศุกร์, ธันวาคม 12, 2551

[ My Dairy ] ของฝากจากเพื่อน^O^


เมื่อวันพฤหัสที่ 11 ที่ผ่าน เพื่อนของข้าพเจ้าที่อยู่ห้องศิลป์ฝรั่งเศสได้มีโอกาสไปงานเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส ที่กรุงเทพมา พอเจอกันวันศุกร์เพื่อนก็เลยเอาของฝากที่ซื้อมาจากงานให้ มี แยมสตอเบอร์รี่เป็นกระปุกเล็กๆ(น่ารักมากๆ) แล้วก็ชีส และเนยไขมันต่ำ เห็นน่ารักจนไม่อยากกินเลยเสียดายมากๆ แต่ถ้าไม่กินมันก็จะเสียของเปล่า ก็เลยถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกแทน ขอบคุณเพื่อนสุดที่รักที่ซื้อของมาฝากนะจ๊ะ ไว้ไปไหนอีกก็ซื้อมาฝากอีกนะ^^

[บทความ] ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์


บทความนี้ไปเจอมาในwebsite dek-d ค่ะ เรื่องของดาวตกที่จะมีในวันพรุ่งนี้แล้วเลยเอามาฝากเพื่อนๆ ใครว่างๆก็ลองดูกันนะคะ^^

สวัสดีครับ วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคมนี้ ชาวเด็กดีอย่าไปไหนนะครับ..เพราะ พี่ลาเต้ จะชวนมาดูฝนดางตก ซึ่งครั้งนี้แว่วว่าจะสวยกว่าหลายๆครั้ง เพราะจะเป็นดาวตกที่หลากหลายสี ไปอ่านรายละเอียดกันเลยครับ

สามทุ่มครึ่งวันที่ 13 ธค.นี้ ชวนดูปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ สังเกตเห็นได้ทางทิศตะวันออก แต่อาจเห็นไม่ชัดเจนเพราะแสงจากดวงจันทร์รบกวน
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชิญชวนน้องๆที่สนใจรวมทั้งผู้ที่รักในกิจกรรมดูดาวชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ [Geminids Meteor Shower] ซึ่งจะปรากฏให้เห็นในคืนของวันที่ 13-14 ธันวาคม นี้
ทั้งนี้ฝนดาวตกเจมินิดส์ นิดส์ [Geminids Meteor Shower] ถือว่าเป็นฝนดาวตกที่มีความสวยงามมากที่สุดในบรรดาฝนดาวตกที่เด่นๆทั้งหมด เนื่องจากมีความหลากหลายของสีที่สวยงามมาก การเกิดฝนดาวตกเจมินิดส์เกิดขึ้นจากแกนกลางของดาวหางที่สลายตัวหมดแล้วกลายเป็นดาวเคราะห์น้อย 3200 Phaethon โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่กลุ่มดาวคนคู่ มีอัตราการตกเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยมากกว่า 60 ดวงต่อชั่วโมง
ปกติจะเห็นได้ตั้งแต่คืนวันที่ 6-19 ธันวาคม ฝนดาวตกนี้จะมีมากที่สุดในช่วงก่อนฟ้าสางของวันที่ 13 ของเดือนธันวาคม แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันแรม 1 ค่ำซึ่งเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เกือบเต็มดวง และส่องแสงสว่างมาก จึงอาจทำให้เห็นเฉพาะฝนดาวตกในดวงที่มีความสว่างมากเท่านั้น
ส่วนฝนดาวตกที่มีแสงสว่างน้อยอาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งการเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ในปีนี้ จะสามารถสังเกตเห็นได้ทางทิศตะวันออก และจะเริ่มเห็นได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 21.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งปรากฏการณ์ฝนดาวตกดังกล่าวเป็นฝนดาวตกอีกอย่างหนึ่งที่มีความน่าสนใจมากในปีนี้
ช่วงปีนี้ถือว่ามีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์มาให้เราได้ดูกันบ่อยๆ ใครที่ยังประทับใจกับพระจันทร์ยิ้มไม่หาย ก็ต้องไม่พลาดฝนดาวตกในครั้งนี้เช่นกันครับ..ว่าแต่ชาวเด็กดีคนไหนจะรอดูบ้าง..ส่งเสียงหน่อยยย..

พี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ขอบคุณข้อมูลจาก Dek-d.com >>http://www.dek-d.com/content/view.php?id=12702

วันอาทิตย์, ธันวาคม 07, 2551

[My Dairy] วุ่นวายไปหมด = =:

ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จนถึง ต้นเดือนธันวานี่ จะทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อย เบื่อ เป็นที่สุด และตอนนี้อากาศก็เริ่มหนาวอีกด้วย เพื่อนๆในห้องก็พากันไม่สบายไปหมด หยุดโรงเรียนกันบ่อยใช่ได้เลย คงเป็นเพราะตั้งแต่กลับจากเข้าค่ายที่ได้พักผ่อนค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว เปิดเรียนมาก็มีแต่สอบกับสอบ คะแนนเลยออกมาไม่ค่อยจะดีกัน แต้ข้าพเจ้าก็คงไม่ขอโทษเรื่องเวลาแต่คงเป็นเพราะตนเองมากกว่าที่อ่านหนังสือมาไม่พอ แต่คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว พยายามแล้วออกมากลายเป็นอย่างนี้ก็มีท้อบ้างเหมือนกัน ใกล้ปีใหม่แล้วจะมีอะไรดีๆบ้างรึเปล่านะ
จะพยายามให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองรับได้ อีก 1 อาทิตย์ก็จะสอบกลางภาคแล้ว ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่มมีเยอะมากๆ รวมถึงการสอบย่อยต่างๆ เหนื่อยมากๆเลย = =;

วันเสาร์, ธันวาคม 06, 2551

[ My Dairy ] 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ

วันพ่อที่ผ่านมาเพื่อนๆได้ทำอะไรให้คุณพ่อบ้างหรือยังคะ? สำหรับข้าพเจ้าวันพ่อที่ผ่านมาก็เอาใจคุณพ่อเป็นพิเศษช่วงเย็นๆก็พากันไปทานอาหารข้างนอกแน่นอนว่าต้องเป็นร้านที่คุณพ่อเลือก พอถึงเวลาสั่งอาหารก็ให้คุณพ่อสั่ง มื้อนั้นเราทานกันอย่างสนุกสนานทั้งครอบครัวเลยค่ะ^^ และตอนกลางคืนกลับบ้านมาก็ชวนน้องไปไหว้คุณพ่อค่ะ ข้าพเจ้าจึงขออาราธนาพรคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงดลบันดาลให้คุณพ่อมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาวนะคะ
และไม่ลืมพ่อคนสำคัญของปวงขนขาวไทยปีนี้ท่านไม่ได้ออกมาพูดเหมือนปีอื่นๆเนื่องจากอาการประชวร ข้าพเจ้าจึงขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้พ่อหลวงหายจากอาการประชวรโดยไว ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

วันพุธ, ธันวาคม 03, 2551

[My Dairy] พระจันทร์ยิ้ม น่ารักจังเลย^^


ในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา มีปรากฎการณ์ท้องฟ้ายิ้ม ตอนแรกมีเพื่อบอกตอนอยู่ที่เรียนพิเศษ บอกว่าพระจันทร์ยิ้มก็นึกว่าใครไปเขียนหน้าให้พระจันทร์ ที่ไหนได้กลับป็นการรวมตัวกันของดวงดาวและพระจันทร์นี่เอง ซึ่งดวงดาวที่อยู่ด้านซ้ายคือดาวศุกร์(ดวงที่สว่างกว่า) และดวงดาวที่อยู่ด้านขวา คือ ดาวพฤหัสบดี และได้ยินมาว่าปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกในเดือนกุมภาพันธ์ ยังก็ติดตามกันนะคะ
แต่พอวันต่อมาพระจันทร์ก็กลับไปอยู่ด้านบนแทน เลยกลายเป็นพระจั้นทร์หน้าบึ้งกลับหัวเลยT^T
** หมายเหตุ เนื่องจากไม่สามารถถ่ายภาพเองได้ จึงนำมาจาก website ด้านล่างนี่ค่ะ

สามารถดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ website นี่ค่ะ >> http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1200043

วันเสาร์, พฤศจิกายน 08, 2551

[ My Dairy ] วันนี้ท้องฟ้ากลัวจัง

วันนี้ตื่นมาตอนเช้า(ที่จริงก็สายอยู่)อากาศไม่ค่อยร้อนมากแต่มีแดดอยู่เหมือนกัน พอถึงช่วงเย็นๆเริ่มมีลมแรง แรงมากๆ น่ากลัวมากเลย พอออกไปดูก็เจอเมฆที่ดำเต็มท้องฟ้าลอยต่ำด้วย พอซักพักฝนก็ตกลงมาคอ่นข้างหนักเลยทีเดียว ข้าพเจ้าก็ชอบอยู่เหมือนกันเวลาฝนตกอากาศเย็นหน้านอนมากๆเลย

ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ในชั่วโมงคอมพิวเตอร์คุณครูได้แนะนำ website การแต่งรูปมาให้พร้อมเตือนว่าอย่าใช้เวลากับรูปให่มากนั้น แต่จะให้ทำอย่างไงได้เพราะข้าพเจ้าชอบแต่งรูปมากๆ จึงแต่งเพลินไปหน่อย ขอบอกว่าเป็นwebsiteที่ดีมากๆ และข้าพเจ้ายังมีอีกอันหนึ่งที่ได้ใช้ศึกษาอยู่แล้วเป็นประจำจึงขอแนะนำให้กับเพื่อนๆเลยแล้วกัน >> http://my.dek-d.com/Writer/story/view.php?id=285669

นอกจากนั้นข้าพเจ้ายังได้แต่งรูปมาให้เพื่อนๆดูด้วย เป็นรูปถ่ายที่ทำให้กลายเป็นรูปวาด ออกมาใช้ได้เหมือนกัน เพื่อนๆลองศึกษาแล้วนำไปใช้กันดูนะคะ (อย่าลืมว่าอย่าใช้เวลากับรูปให้มาเกินไปนะจ๊ะ^^)

วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 06, 2551

[ My Diary ] เปิดเทอมใหม่แล้วค่ะ >>//<<

ตอนนี้ก็เปิดเทอมมาแล้วอาทิตย์กว่าๆ เปิดปุ๊ปเจองานปั๊ปเลย เป็นนักเรียนนี่หน่าก็ต้องตั้งใจเรียน เทอมที่แล้วผลสอบออกมาไม่เป็นที่หน้าพอใจสักเท่าไร เทอมนี้ซึ่งคิดว่าพอจับปรับตัวได้บ้างแล้วก็จะต้องขยันๆ เพื่อให้เกรดออกมาดีขึ้น แต่เหนื่อยกับงานอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ก็ได้กลายเป็นหมีแพนด้าไปเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่เคยนอนต่ำกว่าเที่ยงคืน แต่ก็จะสู้ต่อไปค่ะ^^

และนอกจากการบ้านปกติแล้วตอนนี้ก็มีการแสดงเพลงเพื่อเบญของระดับเพิ่มมาอีกจึงตองหาเวลาซ้อมพร้อมกับเพื่อนๆ เรียกได้ว่าปกติซึ่งไม่มีคาบว่างอยู่แล้วก็กลายเป็นไม่ว่างไปเลย แต่ๆเพื่อนก็ทุ่มเทกับงานนี้มาเหมือนกัน อยากให้ห้องเราได้ติดบ้างเหมือนกัน สู้ๆ Four one For Win!!!

วันพุธ, พฤศจิกายน 05, 2551

[ งานวิชาภาษาไทย ] หัวใจชายหนุ่ม (1)

สรุปความหัวใจชายหนุ่ม

ฉบับที่ 1
นายประพันธ์ได้เขียนจดหมายหาประเสริฐขณะที่ตนอยู่บนเรือ "โอยามะมะรู" ในทะเลแดง เขาครำครวญถึงการกลับประเทศไทย คิดว่าคงไม่มีความสุขและไม่ได้ทำอะไรๆเหมือนตอนที่อยู่อังกฤษ และในระหว่างนั้นเขาก็พบหญิงที่ถูกใจ เขาพยายามจนได้คุยกับเธอ แต่ก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อเธอลงเรือที่ประเทศอิยิปต์ แถทเธอยังมีคนรักมารอรับด้วย

ฉบับที่ 4
หลังจากประพันธ์กลับถึงไทย เขาก็ต้องถูกพอพาไปไหว้ คำนับใครต่อใครไม่ได้หยุด พ่อของเขาอยากให้เขารับราชการในพระราชสำนัก แต่ตอนนี้ไม่เหลือตำแหน่งแล้ว เขาจึงต้องเที่ยวหางานแต่กลับเจอแต่ที่เต็มๆแล้วทั้งนั้น เขาจึงลองขอพ่อทำงานค้าขายแต่ก็โดนปฎิเสธ หลังจากที่ประพันธ์กลับมาบ้านได้ 7 วัน พ่อของเขาก็บอกว่าได้หาภรรยาไว้ให้แล้วชื่อ กิมเน้ย ลูกสาวอากรเพ้ง แต่เขาไม่พอใจกลับการถูกคลุมถุงชนจึงขอให้ได้เห็นหน้าก่อน

ฉบับที่ 5
ได้ประพันธ์ได้แจ้งข่าวให้เพื่อนรู้ว่า ตนได้เข้ารับราชการแล้ว และได้ไปดูตัวแม่กิมเน้ยแล้วด้วย เขาบอกว่าแม่กิมเน้ยเหมือนนางซุนฮูหยิน ตายาวชั้นเดียว ผิวขาว แต่งตัวใช้ได้แต่ใส่เครื่องเพชรมากเกินไป ส่วนหญิงที่เขาถูกใจที่ได้พบที่โรงพัฒนากรนั้น มีชื่อว่าอุไร เธอเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ เต้นรำเป็นด้วยจึงทำให้ประพันธ์ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

ฉบับที่ 6
ต่อมาประพันธ์ได้รับความช่วยเหลือจากประไพจนได้รูจักกับอุไรมากขึ้น จนเขาคิดว่าอุไรคงชอบเขาบ้างแล้วเหมือนกัน ทั้งสองไปเที่ยวด้วยกันทุกคืนจนทำให้ผูอื่นอิจฉา เขาบอกกับประเสริฐว่าอุไรเป็นผู้หญิงสวย กิริยาดีและมีการศึกษาดีทีเดียว แต่งตัวดี เต้นรำก็เป็น และในงานฤดูหนาวเข้าได้พบกับกิมเน้ยในขณะที่กำลังเดินอยู่กับอุไร เธอจึงไม่พอใจและไม่พูดกับเขาอีกเลย

ฉบับที่ 9
ประไพได้แต่งงานกับอุไรแล้ว ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะไม่พอใจแต่เมื่อบอกว่าอุไรท้องแล้ว พ่อของเขาก็ต้องจำใจรีบไปขออุไรให้ทันทีส่วนฝ่ายของเธอก็ต้องตกลงเช่นกัน หลังจากทั้งคู่ได้แต่งงานกันแล้วก็ไปฮันนีมูนกันที่หัวหิน เนื่องจากเป็นที่ที่ทั้งคู่เริ่มรักกัน

ที่จริงแล้วจดหมายมีทั้งหมด 11 ฉบับ จะขอนำมาลงต่อในคราวหน้านะคะ


วันจันทร์, พฤศจิกายน 03, 2551

[ งานวิชาภาษาอังกฤษ ]

What do you want to do?
Sometime I confuse that I choose a right way? I really like this way ? I think that I must be study hard and I will have many way for choose. Because I'm so tried, so I want some more vocation for relax or maybe I'm so lazy.
What dose your parents want?
They want me to do everthing thai I like. They will give some advise for me. My parents want that in the future I will have a good job, be a good people and can be alive with other people.

วันพุธ, ตุลาคม 29, 2551

[ บทความ ] เทคนิคการอ่านหนังสือยังไงให้จำง่ายๆ

พอดีไปเจอบทความแนะนำการอ่านหนังสือให้จำได้ง่ายๆกัน เลยเอามาฝากเพื่อนๆ ลองอ่านแล้วนำไปใช้ดูก็ได้นะคะ

ข้อที่ 1. เพื่อนๆต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆก่อนเลยล่ะ ดูซิ!!!ว่าวิชาไหนน่ะที่เราต้องสอบเป็นอันดับแรกๆ หยิบวิชานั้นขึ้นมาก่อนเลย เตรียมไว้นะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบ ชีท เอกสารต่างๆ หรือแนวข้อสอบ(อันนี้สำคัญนะค่ะ หาให้เจอล่ะ) ค้นเลยๆ ทุกวิชานะค่ะ

ข้อที่ 2.แยกหมวดหมู่แต่ละวิชา ก่อน-หลัง แล้วหาที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบด้วยล่ะ

ข้อที่ 3.เตรียม ดินสอ/ปากกา สมุด และปากกาเน้นข้อความไว้ด้วยนะ

ข้อที่ 4.เริ่มอ่านวิชาที่จะต้องสอบก่อนเป็นวิชาแรกเลยค่ะ ตรงนี้แหละสำคัญมาก น้องๆอย่าอ่านๆๆๆๆๆแล้วก็อ่านเพื่อให้จบ แบบผ่านๆนะค่ะ ต่อให้น้องๆอ่านสัก 10 รอบแล้วบอกคนอื่นๆว่า "ก็เค้าอ่านเป็นสิบๆรอบแล้วอ่ะ แต่ทำไมทำข้อสอบไม่ได้เลยน่ะ?" อ่ะๆๆๆ!!! อ่านสัก 100 รอบก็ไม่ช่วยอะไรหรอกเจ้าค่ะ อ่านแล้วต้องทำความเข้าใจไปด้วย ตรงไหนที่คิดว่าสำคัญๆ น้องๆก็เน้นตรงจุดนั้นไว้ อาจจะใช้วิธีการจดบันทึกไว้ หรือ เน้นข้อความด้วยปากกาสีต่างๆก็ได้ค่ะ เพื่อว่าจะได้กลับมาอ่านอีกครั้ง

ข้อที่ 5.นั้นงัยๆๆๆพี่บอกไปตะกี้เองนะค่ะว่าอย่าอ่านแบบผ่านๆ ดูสิ!!!เพื่อนๆลองกลับไปอ่านข้อ 3 ใหม่สิค่ะ แล้วดูซิว่าที่ต่อจากข้อ 3 นะเป็นข้อที่เท่าไหร่ ข้อที่ 4หายไปๆๆๆๆ ส่วนเพื่อนๆคนไหนสังเกตเห็นก่อนที่เราเฉลย เพื่อนๆก็ไม่มีปัญหาในเรื่องของการอ่านหนังสือแล้วละค่ะ เก่งมากๆเลย ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่ไม่ทันได้สังเกต ก็เอาจุดนี้เนี่ยแหละค่ะไปลองปรับใช้กับการอ่านหนังสือดูตามที่พี่บอกไว้ในข้อที่ 5 นะค่ะ

ข้อที่ 6.อ่ะ ต่อๆๆ การไม่ปล่อยให้ท้องว่างก็เป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ ถ้าเพื่อนๆอ่านๆๆๆหนังสืออย่างเดียวจนลืมทานข้าวแล้วละก็ นอกจากเพื่อนๆจะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้ว อาจจะทำให้ป่วย และทำให้เป็นโรคกระเพาะได้ด้วยนะจ๊ะ สำคัญเลย ต้องหาอะไรทานเมื่อท้องว่างด้วยน้า...อย่าทรมาณตัวเองละ

ข้อที่ 7.ในการอ่านหนังสือ เพื่อนๆควรเลือกเวลาที่รู้สึกว่าสมองเราพร้อมจะทำงานด้วยนะจ๊ะ แล้วเมื่อเพื่อนๆรู้สึกว่าเริ่มอ่านไม่ไหวแล้วล่ะ อ่านนานมากไปทำให้ปวดตา ปวดหัว ให้เพื่อนๆพักก่อน อาจจะหาอย่างอื่นทำ เช่นพักสายตาโดยการหาเพลงเพราะๆฟัง(อ่ะๆๆๆเลือเพลงที่ฟังแล้วจรรโลงใจด้วยละ ถ้าฟังเพลงที่หนักไป อาจทำให้ยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ด้วยนะเจ้าค่ะ) จะดูทีวี เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่ทำแล้วผ่อนคลายก็หามาลองทำกันดูนะเจ้าค่ะ แต่ๆๆๆๆแล้วก็แต่...อย่าพักจนเพลินละ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายผ่อนคลายเพียงพอแล้วก็กลับเข้าสู่โหมดการอ่านหนังสือต่อเลยยย (เอาน่าๆทนเอาหน่อยนะเจ้าค่ะ สอบไม่ได้มีมาบ่อยๆ ตั้งใจให้สุดๆไปเลย)

ข้อที่ 8.นั้นแน่ๆ เรารู้นะว่าเพื่อนๆเริ่มใส่ใจในรายละเอียดในการอ่านกันบ้างแล้ว คงคิดใช่มั้ยละ ว่าเราจะแกล้งทำให้ข้อไหนหายไปอีกน่ะ!!! ดีแล้วค่ะถ้าเพื่อนๆคิดแบบนี้นะ เป็นการฝึกตัวเองไปด้วย ให้เป็นคนรอบคอบ ดีค่ะๆ อ่ะต่อๆ

ข้อที่ 9.อ้า....อ่านไม่ทันแล้วอ่ะ!!!ทำไงดีๆ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนๆคนอื่นๆเกือบทุกคนละค่ะ ที่สำคัญเลย อย่าตื่นเต้นจนรนล่ะ ตั้งสตินะค่ะตรงนี้สำคัญมากๆเลย ให้เพื่อนๆหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึง แล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้เราสอบวิชาอะไรบ้าง แล้วหยิบวิชาที่สอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อนเลย แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆต่อไป (ตรงถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้เพื่อนๆอ่านในส่วนที่เน้น ที่สำคัญๆเอาไว้ก่อนเลย จำได้มั้ยเอ๋ยว่าในการอ่านรอบแรกเราให้เพื่อนๆจดบันทึกที่สำคัญๆไว้ที่คิดว่าน่าจะออก หรือส่วนที่มันยาก จำไม่ได้ก็นำมาอ่านก่อนเลย ตรงส่วนไหนที่เพื่อนๆจำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆเลยค่ะ ตอนนี้เราต้องทำเวลาแหละน่ะ)

ข้อที่ 10.เอาละ...อ่านหนังสือสอบก็ต้องฟิสหน่อย เพื่อนๆบางคนอาจจะอ่านหนังสือเร็วและเข้าใจง่ายทำให้การอ่านหนังสือไม่ค่อยมีปัญหาเลยก็ดีไป ส่วนเพื่อนๆคนไหนเป็นคนที่อ่านหนังสือช้าก็ต้องขยันกว่าคนอื่นๆหน่อยแล้ว อาจจะทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน ทำให้ต้องนอนดึกหน่อย ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะค่ะ หานมอุ่นๆหรือของว่างทานสักนิดนึง ใส่ใจในสุขภาพหน่อยนะค่ะ เพราะเดี๋ยวเพื่อนๆอาจป่วยได้ แล้วเป็นงัยน่ะ ไปสอบไม่ได้ แย่เลยน่ะเจ้าค่ะ สำคัญเลย ถ้าอ่านหนังสือไม่ทันแล้วจริงๆ แต่ร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่าฝืนนะค่ะ ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอนกันดีกว่าค่ะ ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าเราตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบนะค่ะน้องๆ

Credit : ~ปลาไส้ตัน~ >> http://my.dek-d.com/writer/story/view.php?id=342180

วันอาทิตย์, ตุลาคม 12, 2551

[ บทความ ] "ปู่เย็น" เสียชีวิตแล้ว...ปิดตำนาน "เฒ่าทรนง"

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (12 ต.ค.) ว่า ขณะนี้ นายเย็น แก้วมณี หรือ ปู่เย็น อายุ 108 ปี เฒ่าทรนงแห่งลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี เสียชีวิตลงแล้ว หลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าได้นำตัวปู่เย็นขึ้นจากเรือที่จอดอยู่ริมสะพานลำไย ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนหลังจากพยาบาลที่ไปตรวจร่างกายปู่เย็นเป็นประจำทุกวัน พบปู่เย็นนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว และชีพจรเต้นแผ่วเบา

ทั้งนี้ ระหว่างนำตัวปู่เย็นส่งโรงพยาบาลชีพจรของปู่เย็นได้หยุดเต้นพยาบาลจึงให้ยากระตุ้นหัวใจและปั๊มชีพจร แต่ร่างการของปู่เย็นตอบสนองต่อยาน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากถึงโรงพยาบาลไม่นานปู่เย็นก็เสียชีวิตลงอย่างสงบ

สำหรับปู่เย็นมีอาชีพออกหาปลาในลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี โดยหลังจากภรรยาเสียชีวิตได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ภายในเรือริมลำน้ำเพชรบุรี

ที่มาจาก หนังสือพิมพ์ไทยรํฐ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.yenta4.com >>> http://www.yenta4.com/webboard/2/1275876.html

[My Diary] ไว้อาลัยให้ปู่เย็น

ช่วงเช้าวันนี้ข้าพเจ้าได้ดูข่าวทางโทรทัศน์ช่อง 3 รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ และได้พบข่าวของปู่เย็น ซึ่งท่านได้เสียชีวิตแล้ว ภาพข่าวที่ดูเป็นช่วงที่ปู่เย็นถูกส่งไปที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี และนางพยาบาลกำลังช่วยกันปั้มหัวใจให้ปู่อยู่ ซึ่งตามข่าวได้บอกว่า พยาบาลได้ปั้มหัวใจปู่เป็นเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของปู่ไว้ได้ ข้าพเจ้าจึงขอสรุปข่าวตามที่ได้ดูมา ดังนี้ ช่วงเช้าของวันนี้ (12 ตุลาคม 2551) เวลาประมาณ 9.00น. นางพยาบาลที่ทุกๆวันจะมาทำแผลให้กับปู่เย็น แต่เมื่อพยาบาลเรียกปู่ก็ไม่ได้ออกมาจากเรือเหมือนปกติ พยาบาลจึงลากเรือเข้าฝั่งแล้วเข้าไปดูปู่ได้พบปู่นอนนิ่ง จับชีพจรแล้วแผ่วเบา จึงรีบส่งโรงพยาบาล ต่อมาก็เป็นไปตามข้างต้นที่ได้กล่าวไว้

นอกจากนี้ข่าวที่ข้าพเจ้าดูยังมีการสัมภารณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ท่านได้พูดเรื่องที่ปู่เย็นเคยคุยกับบุตรสาวบุตรธรรมว่าหากปู่เสียชีวิตให้นำไปฝังไม่ให้เผา จึงจะนำศพของปู่ไปฝังที่ภูมิลำเนาเดิมของปู่ คือ ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ตามประเพณีของศาสนาอิสลาม ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตคงเป็นเรื่องที่ปู่มีอายุมาก รวมถึงโรคประจำตัว อย่างโรคเบาหวาน และปอดอักเสบ รวมแล้วปู่มีอายุถึง 108 ปี

ข้าพเจ้าจึงขอไว้อาลัยให้กับปู่เย็นไว้ ณ ที่นี้ ด้วย

วันศุกร์, ตุลาคม 10, 2551

[My Diary] เข้าค่ายคณิตศาสตร์

บันทึกการเข้าค่ายคณิตศาสตร์
( Math Gifted Program )

ระหว่างวันที่ 1 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551
ณ วังรีรีสอร์ท จังหวัดนครนายก



( วันที่ 1 )
ในการเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย ณ ที่นั้นมีบรรยากาศที่ดีมาก เพราะอยู่ที่เชิงเขา ทำให้เห็นหมอกบริเวณแถบภูเขาอีกด้วย ทันทีที่ถึงที่หมาย พวกเราก็ต้องไปที่ห้องประชุมเพื่อร่วมพิธีเปิด รวมถึงการจัดโต๊ะแสดงผลงานของโรงเรียนแต่ละโรงเรียน ในช่วงบ่ายนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แต่ละโรงเรียนจะต้องนำเสนอผลงานกล่องดำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก็จะเป็นการนำเสนอโครงงาน สำหรับกล่องดำทางโรงเรียนของเราก็ได้นำเสนอในเรื่อง ‘The wonder plane’ หลังจากเสนอผลงานกล่องดำเสร็จก็เป็นกิจกรรมนันทนาการ หลังจากนั้นก็แยกย้าย กันไปทำภารกิจส่วนตัวและพักผ่อน

( วันที่ 2 )
ทุกคนตื่นขึ้นมารวมตัวกันบริเวณลานกิจกรรม เพื่อร่วมกันออกกำลังกายในช่วงเช้า สำหรับวันนี้จะเป็นการทำกิจกรรมแรลลี่ ซึ่งมีการเปลี่ยนฐานไปเรื่อยๆทั้งหมด 6 ฐาน ประกอบไปด้วย ฐานที่ 1 การแก้ปัญหา, ฐานที่ 2 คณิตศาสตร์ในการพับกระดาษ, ฐานที่ 3 จรวดขวดน้ำท้าปัญหา, ฐานที่ 4 หอคอยกระดาษ, ฐานที่ 5 เป็นไปไม่ได้ และฐานที่ 6 แสงแห่งอัจฉริยะ ซึ่งในการทำกิจกรรมครั้งนี้ได้แบ่งกลุ่มนักเรียนโดยในกลุ่มหนึ่งจะมีนักเรียนทุกโรงเรียน หลังจากทำกิจกรรมฐานเรียบร้อยแล้ว จะเป็นการประชุมกันในกลุ่มในเรื่องของการแสดงที่จะมีขึ้นในช่วงกลางคืน ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องประชุมเพื่อเข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ ซึ่งพิธีบายศรีสู่ขวัญในปีนี้ทางโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบุรี และ โรงเรียนบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการนำนักเรียนร่วมในขบวนแห่ หลังจากจบพิธี ก็จะเป็นการแสดงของแต่ละกลุ่มที่ได้เตรียมกันเอาไว้ ในช่วงสุดท้ายรุ่นพี่ก็ได้มีการแสดงภาพถ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมตลอด 2 วัน

( วันที่ 3)
เช้าวันนี้ก็มีการออกกำลังการที่บริเวณลานกิจกรรมเช่นเดิม ซึ่งสำหรับวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะแสดงออกถึงความอ่อนเพลีย เนื่องจากกิจกรรมตลอด 2 วันที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็มารวมตัวกันที่ห้องประชุมเพื่อร่วมพิธีมอบรางวัล, วุฒิบัตรแก่นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม และพิธีปิด และสำหรับรางวัลชนะเลิศกล่องดำก็ได้ตกเป็นของ โรงเรียนเราซึ่งสร้างความภูมิใจในคุณครูและเรานักเรียนเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นก็เป็นการมอบรางวัลให้กับกลุ่มกิจกรรมที่ชนะเลิศในแต่ละฐาน ตามด้วยการมอบวุฒิบัตร และสุดท้ายก็เป็นพิธีปิดค่ายอย่างเป็นทางการ และรุ่นพี่ก็รวมตัวน้องๆเพื่อจะทำการ Boom Math ซึ่งก่อนที่แต่ละโรงเรียนจะแยกย้ายกันไปก็จะมีการ Boom ของแต่ละโรงเรียน และสำหรับโรงเรียนของเราที่มีจำนวนสมาชิกน้อยกว่าโรงเรียนอื่นก็สามารถทำการ Boom ออกมาได้อย่างมีพลังไม่แพ้โรงเรียนอื่นถึงแม้จะมีติดขัดในช่วงแรกเนื่องจากไม่ได้นัดหมายกันไว้ก่อน แต่ก็สามารถจบได้อย่างสวยงาม

ความรู้สึกของข้าพเจ้าในการเข้าค่าย Gifted math Program
สำหรับความรู้สึกของข้าพเจ้าที่มีต่อค่ายนี้นั้น ในช่วงข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นและกลัวอยู่เหมือนกันว่าจะสามารถเข้ากับเด็กโรงเรียนอื่นๆได้หรือเปล่า จะมีความสามารถต่างกันมากแค่ไหน และเมื่อถึงเวลานั้น เวลาที่ต้องแยกกับเพื่อนๆในโรงเรียน เพื่อไปเจอกับเพื่อนต่างโรงเรียน ตอนแรกรุ่นพี่จะให้จำชื่อเพื่อนในกลุ่มให้ได้ทั้งหมด ข้าพเจ้าก็พยายามจำและถามชื่อของเขา จึงเป็นการทำความรู้จักกันไปโดยปริยาย และเมื่อเข้ากิจกรรมกลุ่ม ซึ่งกิจกรรมแต่ละฐานนั้นมีความยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ทุกฐานต้องใช้ความสามัคคีด้วยกันทุกฐาน ซึ่งนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ทำความรู้จักเพื่อนในกลุ่มได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในช่วงแรกๆข้าพเจ้าก็ไม่กล้าที่จะออกความคิดเห็น แต่พอไปเรื่อยๆข้าพเจ้าก็พยายามร่วมกิจกรรมให้มากขึ้นและเพื่อนๆก็ยอมรับมากขึ้น แน่นอนว่าทุกๆคนมาจากต่างโรงเรียน แต่ก็สามารถเข้าได้ดีทีเดียว สำหรับในส่วนของการทำเสนอผลงานนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นถึงความคิดความสามารถที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคน ซึ่งเป็นที่น่าตื่นเต้นมาก นอกจากนี้กิจกรรมที่นำมาทดสอบยังทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ในหลายสิ่งที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้อีกมากมาย
การเข้าค่ายในครั้งนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าได้ทั้งเพื่อน ความรู้ความคิดใหม่ๆ รวมถึงความสนุกสนาน การกล้าแสดงออก และอื่นๆอีกมากมาย
จึงขอขอบพระคุณคุณครูทุกๆท่านที่ทำให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้มาเข้าค่ายที่ดีอย่างนี้



วันอาทิตย์, ตุลาคม 05, 2551

[My Dairy] ค่ายวิทยาศาสตร์ 27 - 29 กันยายน 2551


หลังจากสอบเสร็จ ทางโรงเรียนก็จัดค่ายให้กับนักเรียนในโครงการทันที คือ ค่ายวิทยาศาสตร์ตั้งแต่วันที่ 27 - 29 กันยายน 2551
ในวันแรกก็จะเป็นพิธีเปิด อธิบายเกี่ยวกับการทำโครงงานในรูปแบบของ FILA และการทำแบบทดสอบก่อนเข้าค่าย หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ได้จัดกลุ่มและแบ่งกันไปทำกิจกรรมในฐานต่างๆ ฐานแรกที่กลุ่มของข้าพเจ้าไปนั้นเป็นฐานเกี่ยวกับการประดิษฐ์เครื่องบิน เป็นการทำเครื่องบิน 3 แบบ คือ จากกระดาษ โฟม และหลอด ฐานที่ 2 เป็นการเขียน FILA จากสิ่งที่ให้มา นั้นก็คือ ต้นกลัว ผลกล้วย และก็ปลีกล้วย และฐานที่ 3 ซึ่งเป็นฐานสุดท้าย คือการให้สรุป FILA จากสิ่งที่ไปสำรวจเองภายในโรงเรียน หลังจากเสร็จกิจกรรมก็ปล่อยไปพัก และต่อในกิจกรรมช่วงกลางคืนอีกมากมาย

และวันที่ 2 ก็จะเป็นการพาออกไปทัศนศึกษาที่บางตะบูน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ในตอนแรกกลุ่มของข้าพเจ้าได้ไปที่บ้านผลิตฟืน และน้ำส้มควันไม้จากต้นโกงกาง ได้ดูสถานที่สิ่งร่วมอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ รวมถึงได้ฟังขั้นตอนและความเป็นมาในการทำถ่านอย่างละเอียด หลังจากนั้นเราก็ไปเปลี่ยนกับอีกกลุ่มโดยจะเป็นการนั่งเรือชมอ่าวบางตะบูน มีคุณครูคอยอธิบายถึงรายละเอียดต่างๆให้ และได้เห็นขั้นตอนการจับสัตว์น้ำ โดยเฉพาะหอยอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว หลังจากจบกิจกรรมนี้ก็มีการบรรยายความรู้ในเรื่องของป่าชายเลนที่โรงเรียนบางตะบูน พอจบก็กลับโรงเรียน ในช่วยกลางคืนก็มีการทำโครงงานกันและการให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้จากดร. ดำรง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎ เพชรบุรี

วันสุดท้ายก็มีการนำโครงงานที่แต่ละกลุ่มทำไว้ออกมาเสนอ และได้รับการปรับปรุงพร้อมทั้งคำแนะนำจาคุณครู หลังจากนั้นก็มีกิจกรรมจากรุ่นพี่ สุดท้ายก็เป็นพิธีปิด

การเข้าค่ายครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้รับทั้งความรู้เพิ่มเติมและความสนุกสนานกลับไปมากมายเลยทีเดียว

วันอังคาร, กันยายน 16, 2551

บทความ >> รู้แล้วว่า ทำไมถึง "อ้วน"

รู้แล้วว่า ทำไมถึง "อ้วน"
* กินเร็ว * ใครที่ชอบกินข้าวเร็วๆ แบบว่าเข้าปากแล้วแทบจะกลืนลงคอโดยไม่ยอมเสียเวลาเคี้ยวละก็ ระวัง! มันจะมา!! ยิ่งถ้าเป็นคนกินเก่งละก็ อาจจะเผลอต่อจานสองได้ง่ายๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ล่ะก็รับรองว่า "อ้วน" แน่นอน ทางที่ดีควรค่อยๆ กินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด (20 ครั้งต่อคำ) หรือใครอยากลดปริมาณอาหารที่กิน ก็ลองดื่มน้ำก่อนกินข้าวก็ได้ จะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น

* กินด้วยดูด้วย * การกินข้าวพร้อมกับดูโทรทัศน์เป็นสาเหตุของความอ้วน! หากเป็นมื้อหนักอย่างข้าวอาจจะไม่ค่อยเท่าไร ถึงจะทำให้เพลินจนกินเยอะกว่าปกติก็เหอะ แต่ปัญหาอยู่ที่อาหารว่าง เช่น น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว กินไปด้วย ดูโทรทัศน์ไปด้วย เพลินเกินห้ามใจ รู้ตัวอีกทีก็ฟาดไปหลายแคลอรีแล้ว

* เสียดายของ * อันนี้ส่วนมากจะเป็นปัญหาของบรรดาแม่ๆ (อิอิ) แต่ก็มีโอกาสเกิดกับทุกคนเช่นกัน เพราะเรามักได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็กว่าอย่ากินทิ้งกินขว้าง ดังนั้นทางออกคือ "ตักน้อยๆ ค่อยๆ กิน" หมดแล้วค่อยเติมใหม่ และหยุดกินทันทีที่รู้สึกว่าอิ่ม

* อ้วน เครียด กินข้าว * เหมือนจะเป็นโรคจิตแบบหนึ่ง (แต่พี่จูนก็เป็นแฮะ 55+) ใครที่ใช้อาหารเป็นเครื่องระบายอารมณ์ ประมาณว่า "อ้วน เครียด กินข้าวววว" แบบนี้ไม่ดีแน่นอนค่ะ เพราะนอกจากจะไม่หายจากอาการเครียดแล้ว ยังเครียดกว่าเดิมกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

Reference: ข้อมูลจากการสนทนาโภชนาการกับ นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.dek-d.com (พี่จูน )
---------------------------
อ่านแล้วเหมือนจะตรงกับตัวเองทั้งนั้นเลย ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายข้อเพื่อนคนไหนสนใจตามไปที่ Link : http://www.dek-d.com/content/view.php?id=10835 นี้เลยนะคะ

วันพุธ, กันยายน 10, 2551

[งานวิชาคอมพิวเตอร์]>> Crossword <<

นี่เป็นเกมส์ Cossword ที่ทำขึ้นเอง เพื่อนๆลองโหลดไปเล่นกันดูนะคะ^^

http://www.upchill.com/download.php?id=8188078e2b1d5e94f398223dbba5b8e1

วันเสาร์, สิงหาคม 30, 2551

[My Diary] กีฬาสีวันที่ 4 และ 5(วันสุดท้ายแล้ว)







สำหรับกีฬาสีในวันที่4 จะเป็นการชิงขนะเลิศกีฬาที่เหลือ และในวันนั้นฝนก็ตกซะด้วย ข้าพเจ้าก็ได้ไปดูการซ้อมของผู้เต้นเอโรบิก เพราะทำงานอยู่ในโรงอาหาร ดูทุกๆคนตั้งใจซ้อมกันมากๆเลย คงเป็นเพราะจะแข่งอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แล้วนั้นเอง

และกีฬาสีในวันที่5 คงเป็นวันที่หลายๆคนรอคอย เช้ามาอย่างแรกคือ ต้องวิ่งไปดูสแตนของแต่ละสี ปีนี้ข้าพเจ้าชอบสีชมพูมากๆเลย ซึ่งแต่งคล้ายๆกับสวนสนุก มีกระต่าย แล้วเค้กด้วย และอีกสีที่ชอบคือสีฟ้าที่แต่งเป็นห้องน้ำ
พอถึงเวลาที่ขบวนพาเรดจะมาข้าพเจ้ากับเพื่อนๆก็ออกไปดูกันข้างนอก ปีนี้ขบวนดูจะแต่งคล้ายๆกัน แต่ก็สวยไปคนละแบบ ข้าพเจ้ารอดูเพื่อนที่เดินขบวนไป ถ่ายรูปไป ซักพักเพื่อนข้างหลังเรียกเพื่อนที่อยู่ในขบวนข้าพเจ้าก็หันไปมอง ตกใจมากเลยเพราะจำเพื่อนไม่ได้(แต่งหน้าแล้วเปลี่ยนมากเลย)ข้าพเจ้าเลยถ่ายรูปเพื่อนมาไม่ทัน แต่ในส่วนอื่นๆข้าพเจ้าก็ถ่ายรูปเก็บไว้ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน พอขบวนเข้ามาในโรงเรียนจนครบก็เริ่มเปิดพีธีกีฬาสีในส่วนของกรีฑา หลังจากนั้นก็จะเป็นการแข่งขันเต้นเอโรบิก

หลังจากนั้นก็จะเริ่มกีฬากรีฑา ข้าพเจ้าชอบดูการแข่งชักเย่อมากๆเลย ดูไปลุ้นไป ข้าพเจ้าเลยถ่ายวีดีโอเก็บไว้ด้วย และก็เริ่มการแข่งขันวิ่งในรายการต่างๆ

ช่วงบ่ายของวันนั้นข้าพเจ้าได้เป็นเวรในห้องพยาบาล ซึ่งวันนี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาทำแผล มือพองก็มีเยอะเพราะชักเย่อมานั้นเอง และก็ทายาแก้ปวดเมื่อย หลังจากอยู่เวรเสร็จแล้วข้าพเจ้าก็ไปดูการแข่งขันกีฬาต่อ ดูการวิ่งไป5-6รายการ ก่อนจะเป็นการแข่งกองเชียร์ซึ่งปีนี้คุณครูไม่อนุญาตให้วิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ เลยต้องนั่งดูไกลๆจึงเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก ปีนี้แต่ละสีก็มีทีเด็ดที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในส่วนของสีชมพูข้าพเจ้าชอบกองเชียร์มากๆเพราะมีความพร้อมเพรียงมากเลย ภาพที่ออกมาจึงสวย ส่วนของสีฟ้าก็เป็นหรีดที่เสียงดังมากเลย มีการเปลี่ยนชุดอาบน้ำด้วย ในส่วนของสีเหลืองดูจะอลังการมากๆเลย มีทั้งเสลียง และควันสีเหลือง กองเชียร์ก็เสียงดังด้วย และสำหรับสีส้มก็มีกลองชุดที่เพิ่มความสนุกสนานได้มากเลยทีเดียว
ก่อนจะมีการปิดพิธีก็จะเป็นการประกาศและมอบรางวัลให้กับผู้ชนะในกีฬาต่างๆ และปีนี้พาเรดและกองเชียร์ก็ได้ตกไปเป็นของสีเหลือง ส่วนถ้วยรวมก็เป็นของสีเขียว และพิธีก็จบลง

วันพุธ, สิงหาคม 27, 2551

[My Diary] กีฬาสี วันที่ 3


สำหรับกีฬาสีในวันนี้ก็มีการแข่งขันกีฬาต่อเช่นเดิม และในช่วงเข้าแถวก็มีการประกาศผลคะแนนเช่นกัน และวันนี้ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆก็ชวนกันไปเชียร์กีฬาเช่นเดิท วันนี้ได้ดูหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
วอลเลย์บอล เล่นกันสนุกๆมากๆเลยข้าพเจ้านั่งติดขอบสนามเลยทีเดียว
แชร์บอล ดู 2 คู่เลย ข้าพเจ้าก็เคยเล่นกีฬานี้ตอนม.1 เหมือนกันแต่ว่าไม่ชนะ และวันนี้ดูก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเขาให้ผู้ชายลงเล่นได้โดยให้เป็นตัวปัดและคนถือตระกร้า และก็ได้เห็นตัวปัดของสีเหลืองวิ่งลงไปเล่นแล้วก็กลับมาปัดลูกต่อ ดูมีสปีริตมากๆเลย
และบาสเกตบอล ก็เชียร์กันอย่างสนุกสนาน พอลูกลงห่วงกองเชียร์ก็พากันกรี๊ดดีใจซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นเพื่อนของที่นั่งข้างๆ เล่นกรี๊ดซะเต็มหูเลย
วันนี้นอกจากจะไปเชียร์แล้วก็มีเวลาส่วนหนึ่งที่ข้าพเจ้าทำโครงงานด้วยเหมือนกัน เพราะงานที่จะต้องส่งหลังช่วงกีฬาสีมีเยอะมากจึงต้องรีบสะสางซะแล้วสิ

วันอังคาร, สิงหาคม 26, 2551

[My Diary] กีฬาสี วันที่ 2


สำหรับกีฬาสีในวันนี้ อย่างแรกเลยก็คือ การประกาศผลการแข่งขันของเมื่อวาน และสีของข้าพเจ้า(สีชมพู) ก็มีแพ้บ้างชนะบ้างเท่าๆกัน(ช่วยกันนับกับเพื่อน^^) หลังจากเข้าแถวเรียบร้อยแล้วข้าพเจ้าและเพื่อนๆก็ชวนกันไปเชียร์กีฬาเช่นเคย
และสำหรับไฮไลท์ของวันนี้คงหนีไม่พ้นการแข่งขันเต้นแอโรบิกเต้น ซึ่งมีขึ้นในช่วงบ่ายโมงครึ่ง ถึง บ่ายสามโมง ถือว่าร้อนมากๆ สงสารคนเต้นมากๆเลย(เข้าใจถึงความรู้สึกเพราะว่าปีที่ข้าพเจ้าก็ลงแข่งขันเช่นกันและอาการก็ร้อนเช่นกัน)ข้าพเจ้านั่งดูตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเข้าข้างสีตัวเองแต่เท่าที่ดูแล้วข้าพเจ้าว่า สีชมพูเต้นออกมาได้ดีที่สุดจริงๆนะ สีชมพูสู้ๆๆ!!!

วันจันทร์, สิงหาคม 25, 2551

งานวิชาภาษาอังกฤษ Four Corners Story Map#1

Story Title : Almie Rose
Setting : At Almie Rose ' s house
List of Characters : Almie Rose, Almie Rose's parents

Beginning : On this Christmas day, Almie Rose wanted a new bicycle . Then she announced that she wanted a new bicycle more than anything on the day before Christmas day.

Problem : Almie Rose 's parent prepare her Christmas gift, but they didn't know that she wanted a new bike. And this time is too late for going to buy a new real bike.

Solution : Almie Rose's father made a model bike by clay and he wrote a note that her daughter could find a model.

Ending : When Almie Rose opened her gift. She saw a model bike and a note. She ask her father that did he made it for her?, her father say yes. Suddenly she was crying and told that she really liked a new bike that her father made more than a real bike.

[My Diary] กีฬาสี วันที่ 1



และแล้วกีฬาสีของโรงเรียนก็เปิดตัวขึ้น สำหรับพิธีเปิดกิจกรรมกีฬาสีภายใน ครั้งที่ 34 ของโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ ก็เป็นที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นไม่แพ้ปีก่อนๆ แต่อุปสรรคที่สำคัญที่สุดก็คือ อากาศที่ร้อนมากถึงมากที่สุด
พิธีเปิดเริ่มด้วยการกล่าวเปิดงานของประธาน การเชิญสัญลักษณ์พระเกี้ยวและธงโรงเรียน ซึ่งปีนี้ให้วัวเทียมเกวียนเป็นผู้เชิญมา และก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะเป็นวัวจริงๆ เกวียนจริงๆ
หลังจากนั้นก่อนประธานจะตีฆ้อง ก็จะต้องมีผู้เชิญซึ่งข้าพเจ้าและเพื่อนๆก็แอบเห็นน้องหมีตัวใหญ่ที่สะพายเป้โรงเรียนห้อยอยู่ด้านบนของตึก 5 ซึ่งเมื่อดูจากเส้นเชือกที่จะพาน้องหมีลงมานั้นมันจะผ่านช่วงหัวของข้าพเจ้าพอดี จึงกลัวว่าจะได้น้องหมีกลับบ้านหรือเปล่า และเมื่อถึงเวลาปล่อยน้องหมี ข้าพเจ้าก็ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย น้องหมีก็ไหลลงมาเรื่อยและแล้ว...มันก็มาหยุดอยู่ตรงหัวของข้าพเจ้าพอดีซะด้วย(มีคนดึงเชือกไว้ น้องหมีเลยค้าง) แต่ซักพักก็เริ่มปล่อยเชือกน้องหมีเลยไหลไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย(เลยอดได้น้องหมีกลับบ้านเลย)
หลังประธานได้ตีฆ้องเปิดงานแล้ว ก็มีการจุดพลุ 3 นัด และก็มีการแสดงเต้นลีลาสของนักเรียนชั้นม.1(ผู้หญิง) และม.3(ผู้ชาย) ทั้งคู่เต้นเก่งมากๆ แถมหุ่นเพรียวอีกด้วย และข้าพเจ้าก็ได้ถ่ายวีดีโอไว้ด้วย ตอนนี้ก็ได้ลงไว้ในweb ฝากไฟล์เพื่อนๆคนไหนอยากดูก็ โหลดไปดูได้เลยนะคะ(แต่ไม่มีเสียงนะกล้องอัดเสียงไม่ได้)>>>http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=3A67E5E538HVIHOIHKAM7H9GPNNEHM
เมื่อการแสดงจบก็เป็นการจบพิธีเปิดกีฬาสีอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้นข้าพเจ้าและเพื่อนๆก็พากันไปเชียร์กีฬากัน วันนี้ก็ได้ดูการแข่งขันหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล ม.ต้นและม.ปลายชาย(ดูคู่เลย) วอลเลย์บอลม.ต้นหญิง และอื่นๆบ้างนิดหน่อย แต่ที่สนุกสนานคงอยู่ที่การเชียร์ของกองเชียร์แต่ละสีที่ร่วมกันให้กำลังใจนักกีฬาอย่างสนุกสนาน

วันอาทิตย์, สิงหาคม 24, 2551

[My Diary] โครงงาน = =;

วันนี้นัดเพื่อนๆในกลุ่มไปทำโครงงานคณิตศาสตร์ด้วยกันที่โรงเรียน พอไปถึงก็เปิดหนังสือ รวมถึงหาจาก Internet ด้วย แต่ก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าจะคิดหัวข้อที่จะทำออกเล่นเอามึนกันไปเลยทีเดียว แต่พอได้หัวข้อมาแล้วเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะดูง่ายขึ้น เราก็เริ่มกันคิดชื่อโครงงานและส่วนประกอบอื่นๆ จนในที่สุดก็สามารถร่างโครงงานคร่าวๆออกมาได้ รู้สึกดีใจเหมือนกัน แต่ก็เหลืออีกเยอะเลยที่ต้องทำอีก
และวันนี้ที่โรงเรียนก็มีคนเยอะแยะเลยเพราะเป็นช่วงกีฬาสี สีต่างๆกำลังซ้อมกันอย่างขมักเขม้น และพรุ่งนี้ก็เป็นวันแรกที่เริ่มการแข่งขันกีฬาสีอย่างเป็นทางการแล้ว คงสนุกสนานไม่น้อยเลยทีเดียว (แต่หลังกีฬาสีนี่สิมีงานต้องส่งเยอะแยะเลย)

วันเสาร์, สิงหาคม 23, 2551

[My Diary] ฟิสิกส์ (กล้องใหม่ของฟ้า)



สำหรับครั้งนี้ทางโครงการได้พาไปศึกษาในเรื่องของวิชาฟิสิกส์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพชรบุรี (เช่นเดียวกับวิชาชีววิยาที่ผ่านมา) ซึ่งคราวนี้เป็นการเรียนแบบบรรยายพร้อมกับลงมือปฏิบัติด้วย เป็นการเรียนในเรื่องของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ซึ่งแนะนำอุปกรณ์ใหม่ๆที่ข้าพเจ้าไม่รู้จัก คือ มัลติมิเตอร์ และ Oscillscope (เป็นเครื่องวัดสัญญาณไฟฟ้า) รวมถึงการต่อวงจรไฟฟ้าซึ่งเมื่อดูจากรูปแล้วดูยากมากๆ แต่เมื่อมีคุณครูคอยช่วยให้คำแนะนำและค่อยๆต่อไปทีละอย่างก็สามารถทำได้อย่างถูกต้อง การเรียนวันนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว ข้าพเจ้าก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ได้รับความรู้ไปมากเลยทีเดียว


และมีเพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง(ฟ้า)รู้สึกว่าเขาจะได้กล้องใหม่มาวันนี้ทั้งวันเขาก็เลยเอาแต่ถ่ายรูป ถ่ายทุกๆท่า ทุกๆอย่างของเพื่อนๆ และตลอดทั้งการเรียน แม้แต่เวลาเพื่อนเผลอก็ถ่าย พอถ่ายได้ก็หัวเราะแล้วยังจะทำมาโชว์ให้เจ้าของรูปดูอีก ข้าพเจ้าก็คอยปิดบังกล้องไว้เหมือนกัน


ซึ่งการไปศึกษาเพิ่มเติมในครั้งนี้ก็มอบทั้งความรู้และความสนุกสนานให้กับข้าพเจ้ามากมาย ข้าพเจ้าขอขอบพระคูณคุณครูทุกๆท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย คราวต่อไปก็จะเป็นการในวิชาเคมี (โปรดติดตามต่อไป^^)

วันอังคาร, สิงหาคม 12, 2551

(My Diary) 12 ส.ค.51 วันแม่แห่งชาติ


ในที่สุดก็ถึงวันแม่แล้ว วันนี้ตื่นสาย(มากกว่าปกติ)ตื่นมาแม่ก็หลับแล้ว

พอช่วงกลางวันก็นอนดูโทรทัศน์กับแม่

เย็นๆหน่อยๆก็ไปช่วยแม่ในครัว หลังจากนั้นก็เปิด power point วันแม่ ให้แม่ดู ตื่นเต้นมากเลยแต่ดูเหมือนแม่ไม่ค่อยสนใจอะไรนัก(เพราะดูโทรทัศน์อยู่)พอจบก็ให้ดอกมะลิแม่แล้วก็กราบแม่ แม่ก็ให้คำสอนมา แล้วหอมแก้มกัน

ช่วงหัวค่ำก็ออกไปกินข้าวข้างนอกกันเพื่อฉลองวันแม่

สำหรับวันแม่ปีนี้หนูอยากให้แม่มีความสุขมากๆนะคะ รักแม่ทุกๆวันค่ะ

วันจันทร์, สิงหาคม 11, 2551

[My Diary] พรุ่งนี้เป็นวันแม่แล้ว

พรุ่งนี้เป็นวันแม่แล้ว ปกติตอนเด็กก็จะมีการ์ดให้แม่ แต่พอมามัธยมมไม่มีแล้ว รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่ปีนี้ได้มีโอกาสทำการ์ดแบบพิเศษให้แม่ โดยทำเป็น power point ก็ทำมาเรื่อยๆ ตอนแรกจะขอถ่ายรูปคู่กับแม่แต่ไม่มีเวลา เลยแต่งรูปเอง เวลาทำก็รู้สึกซึ้งๆไปด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องเปิดให้แม่ดูแล้วรู้สึกตื่นเต้นมากเลย ไม่รู้ว่าแม่จะรู้สึกยังไงเหมือนกัน ตื่นเต้นๆ

วันอาทิตย์, สิงหาคม 10, 2551

[My Diary] มหกรรมงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2551


เนื่องจากเมื่อวานนี้(9 สิงหาคม 2551)
ทางโรงเรียนได้พานักเรียนจำนวนหนึ่ง ไปทัศนะศึกษาในงาน "มหกรรมงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2551" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติไบเทค บางนา

ข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งเราได้ออกเดินทางจากโรงเรียนเวลาประมาณ7โมงเช้า ด้วยรถถึง 8 คัน ข้าพเจ้านั่งอยู่บนรถคันที่ 8 เมื่อไปถึงที่หมาย คุณครูก็แจกสติ๊กเกอร์ซึ่งเป็นบัตรเข้างาน นัดเวลากับนักเรียนก่อนจะปล่อยตัวพวกเราให้เข้าไปในงาน

กลุ่มของข้าพเจ้าก็ไปหาที่นั่งทานข้าวกลางวันเพิ่มพลังก่อนที่จะเข้างาน ในงานมีการจัดนิทรรศการมากมาย ข้าพเจ้าและเพื่อนๆเลือกที่จะไปในส่วนของการทดลองวิทยาศาสตร์ แต่ก่อนจะถึงงานตรงนั้นพวกเราก็ผ่านตรงการจัดแสดงเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ซึ่งตอนนั้นกำลังมีการแสดงของวงดนตรีที่แสดงจากนักแสดงที่เป็นหุ่นยนต์(ดังรูป) ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าชอบมากที่สุดในงาน แต่น่าเสียดายที่อัดวีดีโอมาแต่กลับไม่มีเสียเพราะกล้องที่เอาไปไม่สามารถบันทึกเสียงได้

หลังจากนั้นเราก็ได้ลงทะเบียนการทดลองวิทยาศาสตร์ไว้ 2 lab labที่1เป็นการใช้กล้องจุลทรรศน์และความรู้ในเรื่องของไฮดรา ส่วนlabที่2เป็นเรื่องเกี่ยวกับเลือด ข้าพเจ้าได้รับความรู้และความสนุกสนานจากทั้ง 2 lab

หลังจากนั้นก็เดินไปทางที่จัดนิทรรศการเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และเดินออกไปดูในHall อื่นๆ ก็มีการจัดเกี่ยวกับ ภาวะโลกร้อน โลก อวกาศ ดาราศาสตร์ รวมถึงนิทรรศการเทิดพระเกียรติ์และอื่นๆอีกมากมาย

ด้วยเวลาที่จำกัดในช่วงท้ายข้าพเจ้าก็เร่งเดินมากขึ้นเพื่อให้ได้ดูทั้งงานก่อนที่เวลาจะหมดจึงไม่ได้เก็บรายละเอียดมากมายนัก ก่อนกลับก็มีการถ่ายรูปที่ระลึกไว้

การทัศนะศึกษาครั้งนี้ให้ทั้งความรู้และความสนุกสนานแก่ข้าพเจ้า ตัวข้าพเจ้าเองจึงคิดว่าหากมีโอกาสได้ไปอีกคงไปร่วมกิจกรรมนี้อีกแน่นอน

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 07, 2551

งานวิชาภาษาไทย <ตำนานเมืองเพชร>


ตำนานของ “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”

ตำนานของ “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา” แห่งแม่น้ำเพชรบุรี วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

กว่า 200 ปี มาแล้วที่พระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยองค์เล็ก ขนาดหน้าตักกว้างเพียง 21 นิ้ว ซึ่งลอยน้ำมาจากทางเหนือ (พร้อมพระพี่น้องอีก 4 องค์) ได้ขึ้นประดิษฐานอยู่ ณ วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในจำนวน 5 องค์พี่น้อง ที่มีแผ่นทองคำเปลวปิดหุ้มอยู่หนามากจนแลไม่เห็นความงามตามพุทธลักษณะเดิม

ประวัติความเป็นมา
ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วในประวัติของหลวงพ่อบ้านแหลม ว่า ชาวบ้านแหลมซึ่งอยู่ปากอ่าวจังหวัดเพชรบุรี ได้พากันมาจับปลาในทะเล ขณะที่ลากอวนอยู่นั้นได้ลากพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยติดอวนขึ้นมาองค์หนึ่ง ในระหว่างทางกลับ ก็ได้พบพระพุทธรูปยืน (หลวงพ่อบ้านแหลม) ลอยปริ่มๆ น้ำอยู่ไม่ไกลนัก จึงอาราธนาขึ้นบนเรืออีกลำหนึ่ง แต่เกิดอาเพทฝนตกหนัก ลมพายุพัดจัด เรือลำที่พระพุทธรูปยืนประดิษฐานอยู่นั้น ทนคลื่นลมไม่ไหว จึงเอียงวูบไป พระพุทธรูปที่อยู่บนเรือจึงเคลื่อนตกจมหายไปในแม่น้ำ
ชาวบ้านแหลมพากันตกใจและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ต่างช่วยกันดำน้ำค้นหาอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่พบ จึงตกลงว่าไม่ค้นหากันต่อไปอีก จึงนำพระพุทธรูปองค์นั่งที่เหลืออยู่บนเรืออีกลำหนึ่งไปยังถิ่นของตน และนำพระพุทธรูปองค์นั้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่ พ.ศ.2302 เป็นต้นมา และเรียกขานกันว่าหลวงพ่อเขาตะเครา


ชื่อใหม่ของหลวงพ่อ
หลวงพ่อเขาตะเครา ได้รับการเรียกขานนามใหม่คือ “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา” สาเหตุมาจากมีช่างภาพคนหนึ่งต้องการถ่ายภาพหลวงพ่อ แต่ความที่องค์หลวงพ่อมีทองปิดทับอยู่หนามากจนแลไม่เห็นพุทธลักษณะเดิม ช่างภาพคนนี้จึงไปแกะทองที่ตาหลวงพ่อออกโดยมิได้บอกล่าวและขออนุญาต หลังจากนั้นไม่กี่วันช่างภาพคนนี้ก็มีอาการหูตาบวมเป่ง จึงต้องมากราบขอขมาหลวงพ่อ อาการจึงหายไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไม่มีใครกล้าไปแตะต้องหลวงพ่อ จนกระทั่งทองปิดองค์ท่านทับถมกันมากขึ้นทุกวันๆ ชาวบ้านที่มานมัสการจึงเติมคำว่า “ทอง” ไปในการเรียกขาน จึงกลายมาเป็น “หลวงพ่อ (ทอง)เขาตะเครา”

พุทธลักษณะ
หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัย สูง 29 นิ้ว หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว แต่เนื่องจากทองที่ปิดองค์พระพุทธรูปนั้นหนามาก จนทำให้ไม่เห็นองค์เดิมว่าเป็นพระพุทธรูปหล่อหรือปูนปั้น แต่จากหลักฐานที่ “สุนทรภู่” กวีเอกของไทย ได้เขียนไว้ในนิราศเมืองเพชร คราวที่ได้ไปแวะไหว้หลวงพ่อ (ทอง) วัดเขาตะเครา ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่า หลวงพ่อฯ เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ดังความว่า
“ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะคริวสวาท
มีอาวาสวัดวามหาเถร
มะพร้าวรอบขอบที่บริเวณ
พอจวนเพลพักร้อนผ่อนสำราญ
กับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้
จะขึ้นไหว้พระสัมฤทธิ์อธิษฐาน
เขานับถือลืออยู่แต่บูราณ
ใครบนบานพระรับช่วยดับร้อน”
ความศักดิ์สิทธิ์
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อนั้น เป็นที่โจษขานกันมาแต่โบราณ แม้กระทั่งตอนที่หลวงพ่อจะประทานทองที่องค์ท่านให้นั้น มีผู้เล่าว่า ได้เห็นไฟลุกท่วมองค์ท่านเป็นประกายรัศมีออกมา ทองที่หุ้มองค์ท่านค่อยๆ ไหลหลุดลอกออกบางส่วน ดูน่าอัศจรรย์ และเมื่อนำทองที่ไหลลอกมาไปชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่าได้ถึง 9.9 กิโลกรัม ! ทำให้ได้แลเห็นพระพักตร์ชัดเจนขึ้นมาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีทองปิดหนามากจนองค์ท่านกลมทีเดียว !
นอกจากนั้นยังมีผู้เล่าว่า มีหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวบ้านแหลม ทำไร่ทำนาจนหมดเนื้อหมดตัว จึงคิดจะไปทำมาค้าขายทางใต้ ได้มาไหว้หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา อธิษฐานขอให้ช่วยค้าขายร่ำรวยแล้วจะกลับมาบวชชีแก้บน 15 วัน ปรากฏว่าหญิงคนนั้นค้าขายจนร่ำรวย แต่มิได้กลับมาแก้บนตามที่อธิษฐานไว้ ทำให้มีอาการป่วยหนัก จนกระทั่งผลสุดท้ายต้องกลับมาบวชชีที่วัดเขาตะเครา จึงหายป่วย
อีกเรื่องหนึ่งคือ มีเรือประมงลำหนึ่งถูกมรสุมอัปปางลง ลูกเรือ 11 คนเสียชีวิต รอดมาเพียง 2 คน เพราะมีพระกริ่งและแหวนจำลองของหลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา ทั้งสองคนนี้จึงบนตัวบวชให้หลวงพ่อตั้งแต่นั้นมา และมีอยู่ครั้งหนึ่งขบวนทอดผ้าป่ามาทำบุญที่วัดเขาตะเครา ตอนกลับจากวัดเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำกลางทาง คนโดยสารทั้ง 70 กว่าคนเพียงแค่ฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น และมีอยู่คนหนึ่งที่เช่าพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อฯ แล้วอุ้มองค์ท่านอยู่ คนนี้ไม่ได้รับอันตรายใดๆ แม้แต่นิดเดียว !

บนบานศาลกล่าว
การบนบานศาลกล่าวเพื่อขอพรหลวงพ่อให้ช่วยดลบันดาลในเรื่องราวต่างๆ นั้น มักจะสมปรารถนาเสมอ สุนทรภู่เองก็ทราบกิตติศัพท์นี้จึงได้อธิษฐานขอพรจากหลวงพ่อ ดังนี้
“ได้สรงน้ำชำระพระสัมฤทธิ์
ถวายธูปเทียนอุทิศพิษฐาน
ขอเดชะพระสัมฤทธิ์พิสดาร
ท่านเชี่ยวชาญเชิญช่วยด้วยสักครั้ง”
สิ่งที่ห้ามบนก็คือ ขอให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหาร เช่นเดียวกับหลวงพ่อโสธรและหลวงพ่อบ้านแหลมนั่นเอง เพราะถ้าบนอย่างนี้ จะต้องเป็นทหารทุกราย !
ส่วนการแก้บนนั้น สิ่งของที่นิยมนำมาแก้บนที่ทำกันต่อๆ มานั้น ถ้าดูในสมัยก่อนจากคำอธิษฐานดังกล่าวของสุนทรภู่ ว่าถ้าสมหวังในเรื่องที่ขอไว้ สุนทรภู่จะถวายละคร พร้อมทั้งเทียนเงินทองและของเสวยตามที่มีผู้กระทำกันมา
“แม้นได้ของสองสิ่งเห็นจริงจัง
จะแต่งตั้งบายศรีมีละคร
ทั้งเทียนเงินเทียนทองของเสวย
เหมือนเขาเคยบูชาหน้าสิงขร”
จากคำบอกเล่าของผู้คนที่วัดเขาตะเคราบอกว่า การแก้บนก็แล้วแต่สิ่งของที่บนไว้ ซึ่งก็มีทั้งละคร ข่าวปลาอาหาร ประทัด เป็นต้น แต่หากต้องการให้ได้ผลสมปรารถนาเร็ว ต้องบนตัวบวช ไม่ว่าจะเป็นบวชพระ บวชเณร บวชชี บวชชีพราหมณ์ บวชเนกขัมมะ ผู้ที่บนตัวบวชนี้จะได้ผลสมหวังทุกราย
ทุกวันนี้หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา ยังคงเป็นที่พึ่งทางใจให้กับชาวเมืองเพชรและผู้คนมากมายที่เดินทางมากราบไหว้หรือแม้แต่ระลึกถึงท่านอยู่เสมอๆ

ที่มา : http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13542

วันอาทิตย์, สิงหาคม 03, 2551

[My Diary]จุลชีววิทยา กับ เหล่าเพื่อนๆ


เมื่อวานนี้(เสาร์ 2 ก.ค. 51)
ทางโครงการที่อยู่นั้นได้พาไปเรียนเพิ่มเติม ตอนจะไปก็ขี้เกียจอยู่เหมือนกันเพราะเป็นวันเสาร์เลยง่วงนอน พอไปถึงช่วงเช้าก็จะเป็นการบรรยายเกี่ยวกับจุลินทรีย์ พวกแบคทีเรียต่างๆ เอกสารเป็นภาษาอังกฤษทำให้เข้าใจยากอยู่เหมือนกัน เนื้อหาต่างๆก็ไม่เคยเรียนมาก่อนเลยมีงงอยู่บ้าง
ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการปฏิบัติ ทำให้รู้เรื่องมากขึ้นเพราะลงมือทำเอง มีทั้งให้ทำอาหารของแบคทีเรีย วิธีแยกพวก แบคทีเรีย รา ยีสต์ต่างๆ และการใช้ก้องส่องดูแบคทีเรีย เป็นสิ่งที่สนุกสนานเลยทีเดียว เพราะไม่เคยเห็นเลยทำมาก่อน จึงขอขอบคุณคุณครูทุกๆท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ส่วนในขากลับดูจะสนุกสนานกว่าขามา เพราะรถที่นั่งมาเครื่องก็ค่อนข้างแรง จนทำให้กล่องที่วางอยู่ท้ายรถตกลงไปกลางถนน(กลางถนนจริงๆนะ)เพื่อนที่เห็นก็พากันส่งเสียงกันลั่นรถ ส่วนเราเองก็หันไปกดกริ่งบนรถ(ไม่รู้มีใครกดอีกหรือเปล่าเพราะกริ่งมีหลายอัน)พอรถหยุดเพื่อนผู้ชายคนเดียวบนรถก็รีบลงไปเก็บมาทันที เพื่อนๆบนรถจึงพากันปรบมือให้กับความเป็นสุภาพบุรุษ หลังจากนั้นเพื่อนๆก็ปล่อยมุขออกมาเรื่อยๆ ทำให้เพื่อนหัวเราะออกมา สนุกสนานเฮฮากันทั้งรถเลยทีเดียว ทำเอาเราเองหัวเราะกันน้ำตาไหลเลย

มีเพื่อนพูดออกมาว่า "ตอนแรกก็ไม่คิดว่าห้องพวกเราจะเป็นแบบนี้ สงสัยเก็บกดกันมา"

วันอาทิตย์, กรกฎาคม 20, 2551

[My Diary]วันหยุดหลังสอบ

และแล้ว การสอบกลางภาคของโรงเรียนก็เสร็จสิ้นลง(รอคอยผลคะแนน) หลังสอบก็เป็นวันหยุด ได้หยุด 4 วัน (พฤหัส-อาทิตย์)
วันที่1 ไปเวียนเทียนกับทางโรงเรียนในช่วงบ่าย หลังจากนั้นเพื่อนๆก็ชวนกันไปเลี้ยงส่งเพื่อนที่จะไปเยอรมัน มีทั้งเพื่อนเก่าที่มาจากโรงเรียนอื่นก็หลับมาร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนจะเป็นงานเลี้ยงรุ่นไปซะแล้ว แต่ก็รู้สึกดีใจมากๆ คิดถึงเพื่อนๆทุกๆคน คิดถึงสิ่งต่างๆที่ทำด้วยกัน ความผูกพันธ์ต่างๆ ตั้ง3ปี
วันที่2 ไปทำการบ้านที่บ้านเพื่อนๆ ถ้าทำคนเดียวคงไม่เสร็จแน่ๆ
วันที่3 ยังคงทำการบ้านแต่ทำอยู่ที่บ้านตัวเอง
วันที่4 สะสางการบ้านทั้งหมด
หยุด 4 วันเป็นวันที่ค่อนข้างจะมีควมสุขเลยทีเดียว (อยากหยุดอีกเยอะๆ) เด็กนักเรียนทุกคนจะเป็นอย่างนี้รึเปล่า?

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 03, 2551

[My Diary]เรียน

ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันสอบกลางภาคเข้าไปทุกที ตั้งแต่เปิดเทอมมาก็รู้สึกว่า ม.ปลาย มันแตกต่างกับม.ต้นอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรียนยากขึ้น การบ้าน งานต่างๆเพิ่งขึ้น กิจกรรมก็เยอะ คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักพัก Fighting!!!

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 26, 2551

First Blog

Blog นี้เป็น Blog แรกที่เคยมี ยังใช้ไม่เป็นทั้งหมด เพื่อนๆที่เข้ามาดู มีอะไรจะแนะนำ ก็ช่วยติชมกันเข้ามาด้วยนะคะ